เมาแล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันจ่ายไหม
อุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นในฤดูท่องเที่ยวหรือไม่ก็ตาม ส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุมาจากดื่มเหล้าแล้วมึนเมาขาดสติ เช่นสงกรานต์และปีใหม่แต่ละปีจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมีแต่จะเพิ่มขึ้น เกินครึ่งเป็นเพราะเมาแล้วขับ หลายคนเสียทั้งคนรัก ครอบครัวและจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปรกติได้
ทำให้ทุกปีใหม่ สงกรานต์เมืองไทยจะมีคำว่า 7 วันอันตรายหรือ 10 วันอันตราย แต่ไม่ว่าจะมีกี่แคมเปญก็ตาม เรื่องแบบนี้ก็จะเกิดขึ้นเหมือนเดิม เพราะหลาย ๆ คนคิดว่าไม่เป็นไรหรอก รถเรามีประกันชั้นยอด ถึงเกิดอะไรเกิดขึ้น ยังไงก็ยังมีประกัน ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะออกไปใช้ชีวิต แต่ คุณแน่ใจแล้วใช่มั๊ยว่าคุณมีคนที่จะดูแล?
เมาแล้วขับ จนเกิดอุบัติเหตุ เคลมได้ไหม? ใครต้องรับผิดชอบ
มันเป็นความจริงที่ประกันภัยรถยนต์มีหลายระดับและหลายประเภท ยิ่งระดับของประกันสูงขึ้นเบี้ยประกันแพง ความคุ้มครองก็จะมากขึ้น ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกกรณี ไม่ว่าอุบัติเหตุจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม
แค่คุณมีเงินจ่ายค่าประกันแพงๆ เพื่อแลกความคุ้มครอง ประกันก็จะตอบแทนคุณอย่างคุ้มค่า แต่มันก็มีกรณียกเว้นนะครับ คือ ไม่ว่าประกันจะสูงกี่ชั้นถ้า เมาแล้วขับ และมีแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่าร้อยละ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันจะไม่คุ้มครองเลยคือประกันจะไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว ทุกๆ ความสูญเสียผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบเอง
แต่ถ้าคุณสามารถยืนยันได้ ว่าผู้เอาประกันมีแอลกอฮอล์ไม่ถึง 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันก็ยังจะดูแลและยังจ่ายค่าสินไหมเหมือนเดิมครับ จะเห็นว่าระดับแอลกอฮอล์ของประกันจะแตกต่างจาก พ.ร.บ.รถยนต์ ซึ่งไม่ได้มีข้อบังคับใด ๆ พร.บ. นั้นไม่คำนึงถึงสภาพของคุณ ยังไงก็ดูแล
อธิบายง่าย ๆ ถ้าคุณขับรถชนคนและมีปริมาณแอลกอฮอล์มากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันไม่จ่าย แต่พ.ร.บ.จ่ายครับ
เรื่องเมาแล้วขับ ปัญหาใหญ่ไม่ใช่ว่าประกันจ่ายมั๊ย แต่เรื่องที่ใหญ่กว่าคือกฎหมาย ที่อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่เป็นผู้รับผิดชอบ คนอื่นช่วยอะไรไม่ได้ และมีโทษตั้งแต่เบา ๆ เสียค่าปรับจนถึงการระดับจำคุก
ยังไม่ได้พูดถึงการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของผู้ทำประกัน และเช่นนี้เราจะไปเสี่ยงเมาแล้วขับทำไมครับ ไม่ใช่แค่ตัวคุณเองนะที่เดือดร้อน ทั้งคนที่คุณรัก ครอบครัวหรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องก็ต้องมาเดือดร้อนและสูญเสียกับคุณด้วย วิธีที่ดีคือเมื่อต้องดื่มให้วางแผนล่วงหน้าว่าจะกลับยังไงเอาไว้ก่อนครับ
จะฝากรถ กลับรถเมล์ แท็กซี่หรือ Uber ก็ได้ หรือถ้าเป็นบ้านเพื่อนก็ขอนอนมันที่นั่นเลย นอนให้อิ่ม สร่างแล้วค่อยว่ากันมันก็ยังไม่สายเกินไป ถ้าเราแบบนี้เสมอและทุกคนช่วยกัน การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเพราะเมาแล้วขับ ก็จะลดลงไปอีกมาก หวังว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ไม่เมาได้เป็นดี แต่ถ้าเมาแล้วก็อย่าขับเลยนะครับ
เครดิตภาพ wongsakornsiri.com
